น่าประหลาดที่ภาพบางภาพ ความรู้สึกบางความรู้สึก จะฝังแน่นอยู่ในความทรงจำ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ช่วงเวลาเหล่านั้นมันจะอยู่กับเราไปตลอดกาล
และหนึ่งในความทรงจำนั้นคือ ภาพที่มองเห็นผ่านจากหน้าต่างเครื่องบินลงมายังพื้นดินเบื้องล่าง
ขณะที่เครื่องกำลัง take off ขึ้นจากสนามบินอินทิรา คานธี ในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง
' ราวกับอยู่ในห้วงจักรวาล '
ภาพที่เห็น คือ ภาพดาวบนดิน หมู่มวลแสงไฟที่ส่องแสงกระจายอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
ระยิบระยับสุดสายตา สวยงามเกินกว่าจะบรรยายด้วยถ้อยคำใด
แต่ความรู้สึกในขณะนั้น กลับเป็นความเศร้าที่บรรยายไม่ถูก
คล้ายกับจะปนด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง และหวาดหวั่น จนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ถ้าปล่อยให้ไหลออกมา พี่ที่นั่งข้างๆ จะต้องนึกว่าอาวรณ์หนุ่มแขก จนไม่อยากกลับบ้านแน่ๆ
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
มานึกย้อนถึงความรู้สึกในตอนนั้น มันคงเป็นส่วนผสมระหว่าง จักรวาล ความเวิ้งว้างว่างเปล่า
ความมืด และความโดดเดี่ยว ทำให้นึกถึงเพื่อนคนหนึ่ง
'เพื่อน' ที่มักทำให้สำนึกถึงความไม่จีรังของชีวิต และสภาวะหลังจากสูญสิ้นตัวตน
ถึงตอนนั้น ความทรงจำและสำนึกถึงตัวตนจะยังดำรงอยู่ หรือว่าสูญหาย (อีกทีคือมันไม่เคยมีอยู่จริง)
นับเป็นข้อสงสัยหนึ่งในหลายๆ ข้อ ซึ่งก็คงไม่มีใครที่จะให้คำตอบเหล่านี้ได้
แต่ที่ตอบได้แน่ๆ คือ ทุกคนไม่อาจหนีเพื่อนคนนี้พ้น
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ทุกสภาวะที่เกิดขึ้นกับเรา ทั้งความสุข ความทุกข์ ความผิดหวัง สมหวัง
รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว กำลังจะเกิด หรือยังไม่เกิดก็ตาม ดูเป็นสิ่งที่ไม่น่ายึดมั่นไปทันที
เรียกได้ว่าเกิดอาการปลงขึ้นมาฉับพลัน ลดอาการทุรนทุรายลงไปได้มาก
และสำหรับตัวเอง สิ่งที่คาดหวังยิ่งไปกว่านั้นคือ ครั้งต่อไป เมื่อนึกถึงเพื่อนที่ไม่อยากสนิทคนนี้
เขาจะไม่นำพาเอาความหดหู่เศร้าหมอง และหวาดหวั่นมาให้
แต่จะนึกถึงเขาด้วยความสงบ และพร้อมที่จะทำความเข้าใจกันให้มากกว่านี้